วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

ผักคาวตอง หรือผักพลูคาว

เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ใช้รักษาไข้หวัดนก-ไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีคุณสมบัติห้ามเอนไซน์ “Neuraminidase” ทำงานทำให้ไวรัสแบ่งตัวออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อไม่ได้
ผักคาวตองหรือผักพลูคาว” เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานาน เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย มีประโยชน์ในด้านการรักษาโรคใช้ในการลดไข้ ขจัดสารพิษ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังพบว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ป่วย “เอซไอวี”ได้อีกด้วย
คุณสมบัติสารพัดประโยชน์ของคาวตองที่กำลังเป็นที่ต้องการของคนไทยขณะนี้คือ สามารถรักษา “ไข้หวัดหมู”ได้
ผักคาวตองมีสารซึ่งสามารถทำลายเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเซลล์เพาะเลี้ยง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้หลอดเลือดขยายตัว
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอดีตอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า น้ำมันหอมระเหยในคาวตอง มีคุณสมบัติห้ามการทำงานของเอนไซม์ Neuraminidase ตรงเยื่อหุ้มไวรัส (Influenza)ทำให้ไวรัสไม่สามารถแบ่งตัวออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อได้
สำหรับยาแผนปัจจุบัน Oseltamivir (Tamiflu) รักษาไข้หวัดนก (Avian Influenza) หรือไข้หวัดหมู (Swine Influenza) ปัจจุบันเรียกใหม่ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 มีคุณสมบัติห้ามเอนไซน์ Neuraminidase ทำงาน ทำให้ไวรัสแบ่งตัวออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อไม่ได้
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน สรุปว่า สมุนไพรคาวตองของไทยซึ่งมีประสิทธิภาพคล้ายคลึงกันจึงควรช่วยป้องกัน รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้เช่นกัน (สรุปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552)
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน และคณะได้ศึกษาผลสัมฤทธิ์ของสมุนไพรคาวตอง สูตรทองเนื้องามของผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องในจังหวัดเชียงราย เมื่อปี 2551 ปรากฏว่า ผู้บริโภคสมุนไพรคาวตองสูตรทองเนื้องามร่วมกับยาต้านไวรัส มีคุณภาพชีวิตและภูมิคุ้มกันดีขึ้นกว่าใช้ยาต้านไวรัสเพียงอย่างเดียว
อนึ่งผักคาวตองเป็นผักพื้นบ้านของไทยทางภาคเหนือ ซึ่งได้มีการบริโภคมาหลายร้อยปี จึงปลอดภัยในการบริโภคคุณภาพมาตรฐานของการผลิต
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน ผู้เขียนหนังสือตำราสมุนไพร King of Herb เห็นคุณค่าด้านเภสัชวิทยา และด้านสาธารณสุขของสมุนไพรคาวตอง หรือพลูคาว จึงได้ร่วมก่อตั้งและเป็นประธานกรรมการมูลนิธิคาวตอง ทองเนื้องามเพื่อสังคม โดยยื่นขอจดทะเบียนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 มีวัตถุประสงค์ของมูลนิธิคาวตอง ทองเนื้องามเพื่อสังคม และการดำเนินการในปัจจุบันคือ การสงเคราะห์ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือต้องการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่ไม่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจ ตามหลักการของมูลนิธิ (เดือนละหลายร้อยราย) สำหรับผู้ที่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจ มูลนิธิได้รับความอนุเคราะห์จากโรงงานผู้ผลิตให้จำหน่ายในราคาพิเศษ ตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละเดือน เพื่อมูลนิธิจะได้ใช้เป็นทุนสำหรับช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจต่อไป เพื่อส่งเสริมการศึกษาสมุนไพร ซึ่งขณะนี้ได้มีการศึกษาร่วมกับแพทย์และนักวิจัย ทั้งในคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยของรัฐ และสถานพยาบาลบางแห่ง
คาวตอง สมุนไพรไทยยาปราบไข้หวัด 2009
กลับหน้าแรก